วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

หญ้าแบบไหน ที่เราอยากได้

มารู้จักกับหญ้าจัดสวนกันว่ามีอะไรบ้าง

สำหรับวันนี้ขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับหญ้า 4 ชนิดที่นิยมปลูกในเมืองไทย ได้แก่ หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลเซีย หญ้าเบอร์มิวด้า และหญ้าญี่ปุ่น ซึ่งหญ้าแต่ละชนิดก็จะมีลักษณะที่ต่างกันออกไปเหมาะกับพื้นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือการดูแลความเอาใจใส่เมื่อเริ่มปลูกต้องรดน้ำ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เพื่อให้ต้นหญ้าฟื้นตัวเร็วที่สุด และสามารถเติบโตต่อไปได้



หญ้านวลน้อย
          เป็นหญ้าพื้นเมืองของประเทศไทย ลักษณะใบมีขนาดปานกลาง ปล้องสั้น และมีช่อดอกที่ค่อนข้างยาว เป็นหญ้าได้รับความนิยมปลูกมากที่สุดในเมืองไทย หญ้านวลน้อยเป็นหญ้าที่ชอบแดดจึงสามารถขึ้นในพื้นที่กลางแจ้งได้ดี ทนต่อการเหยียบย่ำ จึงเหมาะกับการปูเป็นพื้นสนาม มีวิธีดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยากมากนักแต่ควรจะหมั่นรดน้ำในช่วงฤดูร้อน เพราะอาจจะทำให้หญ้ามีใบเหลืองได้



หญ้ามาเลเซีย
          เป็นหญ้าที่คนไทยปลูกกันในสวนยางพาราของภาคใต้ซึ่งติดอยู่กับมาเลเซีย และเมื่อมีการปลูกขายจึงเรียกกันว่า หญ้ามาเลเซีย หญ้าชนิดนี้จะมีลักษณะใบใหญ่มากที่สุดมีเขียวอ่อน ชอบแดดแบบร่ำไร ขึ้นได้ดีตามร่มไม้ ชายคาบ้าน และเป็นหญ้าที่ต้องการน้ำมาก จึงควรรดน้ำทุกวัน




หญ้าเทียม
          ในปัจจุบันหญ้าเทียมได้รับความนิยมมาก เพราะมีความคงทนไม่ต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ยหรือตัดเมื่อหญ้าเริ่มยาว แต่ก็จะให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างจากหญ้าจริงด้วยเช่นกัน สำหรับหญ้าเทียมที่นิยมใช้ในบ้านจะเป็นหญ้าเทียมชนิดใบสั้น ซึ่งดูแลง่ายกว่าเพียงแค่ใช้ไม้กวาด กวาดฝุ่นละอองหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ได้ค่ะ



หญ้าเบอร์มิวด้า
          มีลักษณ์ใบเรียวเล็ก และยาว มีสีเขียวเข้ม ต้องการแสงแดดมากจึงปลูกในที่แจ้งได้ดีทนต่อการเหยียบย่ำ นิยมนำไปปลูกในสนามกอล์ฟ แต่สามารถนำประยุกต์ปลูกในสวนได้เป็นหญ้าต้องการการดูแลสูง ต้องหมั่นรดน้ำ และเนื่องจากเจริญเติบโตเร็ว จึงอาจจะกลายเป็นวัชพืชได้






หญ้าญี่ปุ่น
          เป็นหญ้าที่มีลักษณะใบใกล้เคียงกลับนวลน้อย แต่มีใบเล็กกว่า และแข็งกระด้างมากกว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบแบบจูเรีย แต่นิยมนำมาใช้จัดสวนญี่ปุ่นจึงเรียกว่าหญ้าญี่ปุ่น เป็นหญ้าที่ชอบแดดและต้องการน้ำมาก เป็นหญ้าที่โตซ้ำแต่เมื่อขึ้นแล้วก็จะหนาแน่นมากจนวัชพืชอื่นๆ ไม่สามารถแทรกขึ้นมาได้





Credit : คุณสุคนธา ฉ่ำมิ่งขวัญ
ยังมี Idea ตกแต่งสวนรอบๆ บ้านแปลกๆใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ 
 สามารถเข้ามาดูได้ที่ https://www.facebook.com/IdeasGarden

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กุหลาบสีแดง

กุหลาบ



การปลูกกุหลาบไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย เพียงแต่เราต้องใจเย็นนิดนึง รอเวลาว่าที่เหมาะสมเสียก่อนแล้วค่อยปลูก ไม่ใช่ว่าซื้อมาจากสวนสดๆ ร้อนๆ ก็เอาลงกระถางเลย รับรองว่าเสร็จทุกรายไป :) แรกๆ ผมก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ทำอย่างนี้พอดอกหมด ต้นก็เตรียมตายได้เลย มาดูขั้นตอนกันเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา เวลาเป็นเงินเป็นทอง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. ต้นกุหลาบที่ถูกเลือกมาเป็นอย่างดี อิอิ
2. ดินสำหรับปลูกกุหลาบโดยเฉพาะ อันนี้ไม่มีสูตรตายตัวนะครับ ถ้าเราไปถามตามร้านขายต้นไม้ เค้าก็มักจะตอบว่าใช้ได้หมดแหละซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย เรื่องดินเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ในการปลูกกุหลาบ แล้วจะเลือกยังไง ? เอาง่ายๆนะครับ เลือกดินที่หลังจากปลูกไปแล้วในอนาคตจะไม่กลายสภาพเป็นดินเหนียวก็แล้วกัน
3. กระถางดินเผาที่ควรมีความกว้างของปากกระถางอย่างน้อย 1 ฟุต เพราะกุหลาบเป็นพืชที่กินแร่ธาตุในดินมาก ทำให้สารอาหารในดินหมดเร็ว และเราก็จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อยๆ หากต้นโตขึ้น
4. สตาร์เกิ้ล จี สำหรับรองก้นกระถาง หรือหลุมถ้าปลูกลงดิน เพื่อป้องกันหนอนมากัดกินใบและดอก
5. ปุ๋ย ต่างๆ แล้วแต่ความชอบครับ เน่นให้เป็น บำรุงใบแล้วกัน เพราะถ้าใบดี ต้นก็จะแข็งแรง ดอกก็จะมาเองโดยไม่ต้องร้องขอ
6. ขลุยมะพร้ามป่นสำหรับคลุมบนผิวดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้น อันนี้ต้องเอามาแช่น้ำทิ้งไว้ซัก 1 คืน ก่อนใช้นะครับ



ขั้นตอนการปลูก
1. เมื่อเราซื้อต้นกุหลาบมาไม่ว่าจะพันธุ์อะไรก็ตาม ให้พักต้นไว้ประมาณ 7 วัน ตัดดอกที่ติดมากับต้นปักแจกันให้หมดทั้งตูมทั้งบาน อย่าเสียดาย (นับลงมาจากดอก 5 ใบ แล้วตัด) ก่อนเอาลงกระถางหรือเอาลงดิน ไม่ต้องใส่ปุ๋ยบำรุงใดๆ ทั้งสิ้นในช่วงนี้ เพียงแต่รดน้ำตอนเช้าทุกวันเท่านั้นพอ การรดน้ำต้นกุหลาบ ก็ควรรดที่โคนต้นเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ฉีดน้ำเป็นสายรดทั้งต้น เพราะจะทำให้ต้นกุหลาบเป็นโรคง่าย "อันนี้ต้องจำไว้เลยนะครับ ไม่จำเป็นอย่ารดน้ำให้โดนดอกหรือใบ"
2. โดยภายใน 7 วันอันตรายนี้ ก็ให้ค่อยๆ ขยับต้นกุหลาบให้โดนแดนวันละนิด เช่น วันแรกให้วางต้นกุหลาบให้อยู่ในตำแหน่งที่โดนแดดประมาณ 1 ชั่วโมงพอ แล้วเพิ่มไปวันละชั่วโมง จนครับ 7 วัน ก็ประมาณ 6-8 ชั่วโมงพอดี
3. หากไม่มีอะไรผิดพลาดจะเริ่มสั่งเกตเห็นว่ากุหลาบเริ่มแตกตาใหม่ๆ ออกมาใกล้กับบริเวณที่เราตัดดอกทิ้งในขั้นตอนที่ 1 แสดงว่าต้นแข็งแรงดี ถ้าไม่เป็นตามนี้ก็อาจจะมีอาการใบเหลือง ซึ่งแสดงว่าขาดน้ำ (รดน้ำไม่ชุ่มพอ)
4. วันที่ 8 ถ้าพร้อมก็ปลูกได้เลย โดยให้เอาต้นกุหลาบออกจากถุงเพาะ หรือกระถางเดิมซึ่งใบเล็ก แล้วนำไปใส่กระถางใบใหม่ โดยใส่ดินรองที่ก้อนกระถางก่อนประมาณ 3 นิ้ว กดให้แน่น วางต้นกุหลาบลงไปพร้อมดินเดิมที่ติดต้นมา เทดินที่เหลือใส่ ค่อยๆ อัด เหลือพื้นที่ไว้คลุมขลุยมะพร้าวที่แช่น้ำไว้ด้วยด้ว
5. ลองรดน้ำดู น้ำควรไหลผ่านชั้นดินลงไปได้ดี แต่ไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าเกิน 10 นาที ถ้าเร็วเกินดินก็จะรักษาความชื้นไว้ไม่ดี แต่ถ้าช้าเกินก็จะทำให้รากเนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ :)
6. กระถางกุหลาบควรถูกวางในตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดวันละอย่างน้อย 6 ชั่วโมง


หากต้องการให้สวนสวยตลอดและยาวนานลองให้ Osmocote เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยดูแลสวยสวยๆ ของคุณได้
//อ่านลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sotus.co.th

Credit: Roses Planting
ยังมี Idea ตกแต่งบ้านและสวนแปลกๆใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ 
 สามารถเข้ามาดูได้ที่ https://www.facebook.com/IdeasGarden

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จัดสวนหน้าบ้านง่ายๆ อย่างสวนหิน

จัดสวนหน้าบ้านง่ายๆ  อย่างสวนหิน

การแต่งสวนหน้าบ้านด้วยหิน หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า "สวนหิน" ฟังจากชื่อแล้วคงไม่ต้องบอกว่าพระเอกของงานนี้คืออะไร ก็ต้องเป็นหินชนิดต่างๆ ที่เรานิยมเอามาประดับตกแต่งสวนหน้าบ้านของเราให้ดูสวยงาม สร้างสีสันให้ดูใกล้เคียงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยหินที่จะเอามาแต่งสวนนั้นก็จะมีหลายชนิด เช่น หินกรวด , หินฟองน้ำ ,  หินปูน , หินกาบ , หินชั้น โดยหินแต่ละแบบก็จะมีรูปทรง ขนาด และสีสันที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแบบและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนว่าต้องการแต่งสวนหินหน้าบ้านของเราให้เป็นแบบไหน ก่อนอื่นมาดูวัสดุ-อุปกรณ์สำหรับใช้แต่งสวนหินหน้าบ้านกันว่ามีอะไรบ้าง


อุปกรณ์สำหรับจัดสวนหิน
- หินชนิดต่างๆตามต้องการ กะปริมาณให้เพียงพอกับพื้นที่หน้าบ้านที่ต้องการจัด อย่างหินแม่น้ำที่เคยซื้อถุงละ 10 โล ราคา 30 บาท ใช้ประมาณ 5 ถุงต่อตารางเมตร(ขึ้นอยู่กับความหนาในการโรย)
- แผ่นพลาสติกสำหรับรองพื้น เป็นแผ่นพลาสติกที่มีรูระบายน้ำได้ เมตรละประมาณ 15-20 บาท ซื้อมายกม้วนเลยจะถูกขึ้นไปอีก โดย 1 ม้วนจะยาวประมาณ 40 เมตร
- ทรายสำหรับปรับระดับพื้น สั่งซื้อจากบ่อทรายเลยก็ได้ขายเป็นคิว โทรสั่งมาเทเป็นรถสิบล้อเลย คิวละประมาณ 200-400 บาทขึ้นอยู่กับว่าเป็นทรายแบบไหน
- แผ่นหินทางเดินที่ชอบ
- แผ่นกั้นหินด้านข้าง เช่น อิฐ , บล็อคประสาน , หินศิลาแลง ใช้กั้นไม่ให้ทรายหรือหินไหลออกนอกพื้นที่


เมื่อเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ เสร็จแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
- วางแผนกันก่อนว่าจะจัดสวนหินออกมาเป็นแบบไหน โดยร่างออกมาเป็นแบบคร่าวๆ ก่อนว่าจะวางเป็นรูปแบบไหน ทางเดินอยู่ตรงไหน จะวางหินแบบไหนอย่างไร จะสลับสีหรือเปล่า โดยเขียนออกมาเป็นแบบคร่าวก่อนก็ได้ หรือไม่ก็ไปหารูปตัวอย่างการจัดสวนหินสวยๆ จากใน Internet ก็ได้ มีให้เลือกสรรมากมาย แล้วค่อยเอามาประยุกต์ให้เข้ากับบ้านของเรา
- เมื่อรู้แล้วว่าเราจะต้องจัดสวนหินตรงไหน ขนาดพื้นที่เป็นเท่าไร ก็เริ่มปรับพิ้นที่ด้วยทรายกันก่อน โดยปรับให้มีความลาดเอียงสักเล็กน้อย และปรับให้เรียบไม่เป็นแอ่งๆ เพราะจะทำให้น้ำขังได้เวลาที่ฝนตก
- เมื่อปรับพื้นทรายเสร็จก็ให้ลดน้ำเล็กน้อยให้พอชุ่ม
- วางแผ่นกั้นหินด้านข้างของตัวสวน เพื่อกำหนดอาณาเขตของสวนหินที่ชัดเจนของเรา ก็อยู่ที่ว่าเราเลือกที่กั้นแบบไหน แต่โดยส่วนตัวชอบแบบบล็อคประสานเพราะมันต่อง่ายดี แล้วก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบบล็อคธรรมดา และแบบโค้ง
- นำแผ่นพลาสติกที่เตรีมไว้มารองพื้นเพื่อแยกส่วนของทรายและหินออกจากกัน หินจะได้ไม่จมลงไป และอย่าลืมว่าพลาสติกที่ใช้ต้องเป็นแบบมีรู ถ้าซื้อแบบธรรมดามาก็อย่าลืมเจาะรูก่อนด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีรูระบายน้ำน้ำจะขังเอาได้
- วางแผ่นหินหรือแผ่นไม้ทางเดินที่เตรียมไว้ วางระยะห่างให้พอเหมาะตามระยะก้าวของเราก็ได้ วางตามแบบที่ร่างเอาไว้
- โรยหินที่เตรียมไว้ลงไปตามจุดต่างๆ ตามแบบได้เลย ความหนาก็แล้วแต่ความชอบและงบประมาณ ผมจะโรยหนาประมาณ 2 นิ้วแต่จะโรยหนากว่านั้นก็ได้แล้วแต่ความชอบ


หลังจากการจัดสวนหินให้กับสวนสวยๆ หน้าบ้านของเรา ลองจัดกันดูไม่อยากอย่างที่คิดใช่มั๊ยครับ เพียงเท่านี้เราก็จะมีสวนหินหน้าบ้านสวยๆ มาไว้เชยชมกันแล้ว ^^

Credit: homeenrich.blogspot

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประติมากรรมในสวนของคุณ

อุปกรณ์ที่ไว้สำหรับตกแต่งสวน ก็เปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มความสวยงามให้แก่สวน ซึ่งนอกเหนือจากต้นไม้ สิ่งนั้นที่คนชอบสวน แนะนำได้แก่ รูปปั้นสำหรับแต่งสวน



รูปปั้น การนำรูปปั้นมาตกแต่งสวนนั้น เป็นวิธีการเรียกจุดสนใจอีกได้ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่บังคับให้คนมอง โดยเฉพาะรูปคนหรือสัตว์ มักจะเป็นจุดสนใจสร้างจินตนาการให้มองถึงงานศิลปะ ที่มีค่ามากในการนำมาตกแต่งสวน

ความหมายของรูปปั้นมงคล ที่นิยมนำมาตกแต่งสวน

รูปปั้นไก่
- เป็นมงคลที่สามารถนำมาใช้เพื่อสลายพลังปราณชี่พิฆาต ในลักษณะของหนอนพิฆาต เช่น บ้านที่มองเห็นเสาอากาศที่มีสายไฟระโยงระยาง เสาไฟ้าแรงสูง หรือเสาทีวี โดยมองจากหน้าตาหรือประตูบ้าน ซึ่งลักษณะของหนอนนี้ จะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านมีเรื่องเจ็บป่วย โดยมีการแก้ไข ให้ตั้งรูปปั้นไก่ให้หันหน้าไปยังปราณชี่พิฆาตนั้นๆ  แต่คนที่เกิดปีเถาะไม่ควรใช้รูปปั้นไก่ในการตกแต่ง เพราะไก่เป็นนักษัตรที่ไม่ถูกกับคนปีเถาะ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง

รูปปั้นนกกระเรียน
- เป็นมงคลที่มีความหมายดีอีกอย่าง นกกระเรียนจะช่วยเสริมให้อายุยืนสุขภาพแข็งแรง หน้าที่การงานราบรื่น และส่งผลให้เรียนดี

รูปปั้นกวาง
- เป็นมงคลที่นิยมนำมาใช้ทางฮวงจุ้ย เชื่อว่ากวางจะช่วยให้สมหวังในสิ่งปรารถนา และเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งมีศรีสุข ลดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในบ้าน ให้จัดวางรูปปั้นกวางหันหน้าเข้าบ้าน เพราะกวางจะช่วยนำสิ่งมงคลเข้าสู่ในบ้าน

รูปปั้นเป็ดแมนดาริน
- จัดว่าเป็นอุปกรณ์ฮวงจุ้ยอีกชนิด เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและคู่ครอง ถ้าวางรูปปั้นหรือติดภาพไว้ในบ้านจะช่วยเสริมความรักสามีภรรยา ที่สำคัญต้องวางเป็นคู่ถ้าเป็นภาพวาดต้องเป็นคู่เหมือนกัน

รูปปั้นปลาหลีฮื้อ
- จัดว่าเป็นสัญลักษณ์มงคลทางฮวงจุ้ยที่นิยมในหมู่คนค้าขาย และคนทั่วไป เพื่อช่วยเพิ่มโชคลาภ ทำให้ค้าขายดี การวางปลาหลีฮื้อช่วยผ่อนคลายปัญหาความทุกข์ยาก คดีความหรืออาการเจ็บไข้ได้ป่วย ควรวางปลาหลีฮื้อหันหัวเข้าบ้าน จะได้นำความโชคดีและสิริมงคลเข้าสู่บ้าน

รูปปั้นเต่า
- เป็นมงคลที่มีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่งเสริมให้เป็นมงคลกับชีวิต หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัยต่างๆ สำหรับฮวงจุ้ยเต่าเป็นสัตว์อายุยืน จึงช่วยส่งเสริมให้คนสูงอายุมีอายุยืนยาวหายเจ็บป่วย คนหนุ่มสาวมีโชคลาภ

รูปปั้นสิงโต
- เป็นมงคลที่เรียกโชคลาภมากเนื่องจากสิงโตมีพลังมาก แต่ไม่เหมาะที่จะอยู่ที่บ้าน เหมาะสำหรับวัดวา สถานที่ราชการ หรือสำนักงานต่างๆ

รูปปั้นช้าง
- เป็นมงคลที่มีรูปร่างใหญ่ นิสัยเป็นมิตรและไม่ดุร้าย ทางด้านฮวงจุ้ยการนำเอาช้างมาใช้ในเรื่องของความสูงใหญ่เปรียบเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มั่นคง ส่วนมากจะตั้งตามสวนสาธารณะ สวนเอกชนต่างๆ

การจัดวางรูปปั้น ต้องคำนึงถึงมุมมอง อย่าวางรูปปั้นหลบซ่อนเกินไป ควรมีฉากหลังที่ทำให้รูปปั้นดูเด่นขึ้น ต้นไม้ที่ใช้ควรมีรูปทรงที่สะดุดตา เช่น สนเลื้อย เศรษฐีไซ่ง่อน ซุ้มกระต่ายด่าง และไม้ประดับต่างๆ ควรเลือกรูปปั้นวางให้เข้ากับแบบบ้าน เช่น บ้านทรงไทย มักจะใช้โอ่งบ้านเชียง สังคโลก หรือล้อเกวียน มาตกแต่ง ถ้าส่วนสวนญี่ปุ่น หรือจีน มักจะใช้ตะเกียง สะพานเล็กๆ และอ่างน้ำ เป็นต้น

Credit: Park of the monsters, doogarden

เสียงแว่วกังวาฬ ในสวนสวย

เวลาที่ลมพัดแล้วได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งดังกังวาฬ ฟังแล้วรู้สึกเพลินเพลินจริงๆ วันนี้ Ideas Garden จะมาคุยถึงอุปกรณ์ในสวนอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งนั้นก็คือ "กระดิ่งลม"


กระดิ่งลม ในสมัยก่อนนั้นมีความเชื่อที่ว่า เอาไว้ใช้ไล่พลังที่ไม่ดีให้สลายไปได้ เช่น บริเวณที่มีรูปร่างเป็นเส้นพุ่งตรงเหมือนลูกศร
- อย่างทางเดินที่เป็นเส้นตรงแคบยาว ให้แขวนกระดิ่งลมไว้ในบริเวณสุดทางเดินเพื่อช่วยกระจายพลังออกไป
- หากชอบนั่งพักผ่อนในศาลานั่งเล่นในสวน แนะนำให้แขวนกระดิ่งลมไว้ใต้คาน เพื่อช่วยสลายพลังที่กดทับจากคานให้กระจายออกไป
- การแขวนกระดิ่งลมหรือระฆังลมไว้ในสวน หากรู้สึกว่าที่ตรงนั้นมีลมแรง จนทำให้เกิดเสียงดังเกินไป ควรเปลี่ยนที่หรือเอาออก เพราะเสียงที่ดังรบกวนย่อมไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพหูและสุขภาพใจ

การแขวนกระดิ่งลมหรือระฆังไว้ในสวน ตามหลัก " ฮวงจุ้ย "
- นับเป็นวิธีการที่ดีในการกระตุ้นให้เกิดพลังที่ดีไหลเวียนในสวน โดยเฉพาะในจุดที่เป็นจุดอับ หรือไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว เสียงของกระดิ่งลมช่วยชโลมความสงบสุขไปทั่วบริเวณ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นพลังซี่ที่ติดขัดหรือหยุดนิ่งให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น

กระดิ่งลม นั้นมีมากมายหลายขนาดให้เลือกใช้ กระดิ่งลมแบบแท่งเหล็กที่นิยมใช้กันทุกวันนี้ มีออกแบบหลายแบบ และจำนวนแท่งที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีทั้ง 4,5,6,8,9,10,11,12 แต่ที่นิยมจะเป็น 6 แท่ง ส่วนขนาดก็แล้วแต่ความเหมาะสม

- ในบางอารมณ์ที่คุณรู้สึกว้าวุ่นสับสน หรือตึงเครียด หากได้มานั่งเล่นในสวนเงียบๆ ฟังเสียงลมพัดใบไม้ไหว กระดิ่งลมเสียงกรุ๋งกริ๋ง ยามกระทบสายลมอ่อนๆ เสียงน้ำพุ น้ำตกไหลรินกระทบผิวน้ำ หรือผ่านซอกหิน จะพบว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงแห่งธรรมชาติในสวน ได้บำบัดเยียวยาจิตใจของคุณให้สงบขึ้น

Credit: ๛๏หมวยเถื่อน๏๛ siamfishing

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จัดสวน รอบๆ บ้าน เสริมฮวงจุ้ย

มื่อพูดถึงมุมนอกบ้านคุณนึกถึงอะไร ? จะดีแค่ไหนหากบ้านของเรามีมุมนอกบ้านไว้นั่งชิลล์ แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนหรือใครรักสันโดษเอาไว้นั่งรับลมแบบเดี่ยวๆเติมความรู้สึกเย็นสบายช่วยเสริมพลังชีวิตกันหน่อยดีมั๊ย


เมื่อพูดถึง มุมนอกบ้านคุณนึกถึงอะไร จะดีแค่ไหนหากบ้านของเรา มีมุมนอกบ้านไว้นั่งชิลล์ แฮงค์เอาท์กับเพื่อน หรือใครรักสันโดษเอาไว้นั่งรับลมแบบเดี่ยวๆ เติมความรู้สึกเย็นสบาย แถมยังช่วยเสริมพลังงานด้านบวกให้กับสมาชิกภายในครอบครัวอีก แค่คิดก็เพลินอยากลองจัดมุมนอกบ้านไว้เหยียดแข้งเหยียดขาบ้างแล้วหละ แต่จะจัดยังไงให้ถูก หลักฮวงจุ้ย  มาดูของตกแต่งเรียกพลัง กระตุ้นอารมณ์ และทำตามไปพร้อมๆกับ Ideas Garden กันเลยครับ

เริ่มต้นจากตำแหน่งมุมนั่งเล่นนั้นควรจะเป็นทางทิศตะวันออกของบ้าน เนื่องจากมุมนี้จะได้รับอิทธิพลจากแสงแดดในช่วงเช้าแค่สั้นๆ แต่พอช่วงบ่ายจะทำให้เกิดร่มเงาของบ้านด้านทิศตะวันออกมากขึ้น ใช้เป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจตั้งแต่บ่าย 2 โมงเป็นต้นไปได้แล้ว 

โต๊ะและเก้าอี้ 

โต๊และเก้าอี้สีขาวนั้นถือว่าเป็นสีแห่งการปรับตัวช่วยสร้างความสมดุลให้กับชีวิตเรานั่นเอง


ไม่อยากให้มุมนี้จืดชืดเกินไป ลองหาของตกแต่งสีส้มมาวางไว้ เพราะสีส้มนั้นช่วยสะท้อนเรื่องความคิดสร้างสรรค์ หรือหากใครไม่ชอบสีส้มสดก็อาจจะลองหาสีส้มโทนเบจ เพื่อมากระตุ้นพลังงานแห่งการสร้างมิตรภาพได้เช่นกัน


ไม้ หวาย หรือวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติต่างๆ จะส่งพลังงานด้านการปรับตัว ความมีระเบียบแต่แฝงไปด้วยความยืดหยุ่น


เก้าอี้ไฟเบอร์อาจเป็นวัสดุเนื้อแข็งที่นั่งแล้วไม่สบาย แถมยังส่งผลให้ภาวะอารมณ์หัวแข็ง จึงควรทอนพลังงานด้านลบด้วยการนำ ผ้า หรือเบาะ หมอนอิงสีสันสดมาตัดแทน
ระแนงพรางแสง


สร้างพื้นที่ร่มรื่นให้กับสวนด้วยการทำระแนงหรือรั้วไม้ก็เก๋ไม่เลว แถมยังเป็นการปรับสมดุลแห่งพลังงาน เมื่ออุณหภูมิไม่ร้อน ก็สร้างพลังงานเย็นสบาย จึงซึมซับพลังงานอันนุ่มนวลเข้าสู่ตัวเอง แถมระแนงยังช่วยพรางแสงแดดไม่ให้เผาไหม้ในร่างกายอีกด้วย


หินตกแต่ง


หินตกแต่งนั้นจะส่งพลังงานในเรื่องของความมั่นคง การสนับสนุนละพลังอำนาจ ที่ควรเลือกหินที่ไม่มีแหลมคมมากนัก หรือจะใช้เป็นตุ๊กตาหินก็ได้


อีกหนึ่งทางเลือกที่จะเสริมสร้างพลังงาน อาจใช้หินเม็ดกลมๆ (หินแม่น้ำ) ซึ่งมีหลายสีให้เลือกใช้และง่ายต่อการตกแต่งอีกด้วย ที่จะช่วยส่งพลังงานที่สะท้อนความร้ายกาจของดาวเสาร์ที่เป็นดาวแห่งความทุกข์ยากและบีบคั้นเรื่องต่างๆได้เป็นอย่างดี
ธารน้ำ และน้ำตก


น้ำนอกจากจะสร้างความเย็นสบายผ่อนคลาย ตามหลักฮวงจุ้ยยังหมายถึงเงินอีกด้วย หลักในการสร้างน้ำตกหรือธารน้ำง่ายๆคือ ต้องห่างจากบ้านอย่างน้อย 5 เมตร ป้องกันพื้นทรุด บ่อควรลึก 10 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อให้สามารถเก็บเงินทองได้ดี ข้อควรระวัง ห้ามจัดวางบ่อน้ำไว้หลังบ้าน เพราะจะส่งปัญหาด้านสุขภาพ  หรือว่าใครที่มีพื้นที่แคบ สร้างบ่อน้ำเล็กๆ ไว้เป็นมุมพักสายตาก็ได้

เพื่อเพิ่มความสวยให้กับต้นไม้ ดอกไม้ ในสวนของคุณแบบยาวนานลองให้ Osmocote ช่วยดูแลสวยสวยๆ ของคุณ 
//เพิ่มเติมได้ที่ www.sotus.co.th

Credit : pinterest by forfur.com
ยังมี Idea ตกแต่งบ้านและสวนแปลกๆใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ 
 สามารถเข้ามาดูได้ที่ https://www.facebook.com/IdeasGarden

มาจัดสวนบนโต๊ะทำงานของเรากันเถอะ....!!


สำหรับใครที่รู้สึกว่าโต๊ะทำงานเขาเรามันดูโล่งๆ ไม่มีชีวิตชีวาเลย วันนี้ Ideas Garden ของแนะนำ การจัดสวนบนเล็กๆ บนโต๊ะทำงานของคุณให้ดูดีมีชีวิตชีวามากขึ้นกับ "การจัดสวนถาด"

สวนถาด คือ การนำพืชพรรณมาจัดในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบที่เหมือนธรรมชาติหรือแบบตามความต้องการของเรา องค์ประกอบหลักเป็น พืชต่างๆ+ก้อนหิน+กรวด,ทราย แต่หนุ่มๆ สามารถนำของตกแต่งที่มีขนาดเล็กต่างๆ มาจัดให้เป็นธีมเจ๋งๆ ได้

     ความจรรโลงใจมันอยู่ที่เราสามารถจำลองบรรยากาศป่าเขา, น้ำตก, ทะเล หรือสวนหลังบ้าน มาอยู่ในถาดเล็กๆ เนี่ยล่ะ (กระถางก็ได้นะ)

     ชนิดของสวนถาดจำแนกตามลักษณะคือ สวนแห้ง อาจจะมีแต่ต้นไม้ปลอมหรือสวนที่มีต้นไม้ที่ไม่ต้องดูแลมากอย่าง ต้นกระบองเพชร กุหลาบหิน มีกรวด+ก้อนหินเล็ก จะจัดเป็นการเลียนแบบธรรมชาติในธีมทะเลทรายก็ได้
     สวนชื้น เป็นสวนที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอทุกวัน มีต้นไม้ตระกลูเฟิร์น, ต้นมอส, ต้นพลูด่าง มีดินร่วนเป็นพื้น จะเพิ่มลำธารสายเล็กเพื่อความเป็นธรรมชาติด้วยก็ได้ มือใหม่พี่มิ้งแนะนำว่าจัดสวนแห้งง่ายกว่าทั้งดีไซน์และการดูแลครับ



การเตรียมอุปกรณ์
     ในการจัดสวนถาดคุณอาจต้องเตรียมอุปกรณตัดต้นไม้ของคุณพ่อ คุณแม่ บ้างเช่น กรรไกรตกแต่งกิ่ง,พลั่วขนาดเล็ก,มีดคัต เตอร์,แหนบในการคีบที่ต้องเบามือ
ขั้นตอนการจัดอย่างง่ายๆ
   



เริ่มจากลองออกไอเดียก่อนว่าต้องให้สวนของเรามีลักษณะแบบไหน มีอุปกรณ์ตกแต่งอะไรที่อยากให้มีบ้าง เช่นพวกตุ๊กตาเซรามิก,ก้อนหินแบบต่างๆ,ต้นไม้อะไรบ้าง เลือกดินให้เหมาะสม ถ้าสวนแห้งที่ไม่ต้องมีความชื้นมาก ก็เป็นพวกกรวด,ทรายน้ำจืด,ถ่าน ส่วนสวนชื้นก็ใช้ดินสำหรับปลูกต้นไม้ทั่วไปครับ



หรือจะจัดใสกะขวดแก้วหรือโหลแก้วก็ได้นะ


เพื่อเพิ่มความสวยให้กับสวนบนโต๊ะของเราแบบยาวนานให้ Osmocote ช่วยดูแลสวยสวยๆ ของคุณ 
//เพิ่มเติมได้ที่ www.sotus.co.th

Credit: P'Mink Dek-D
ยังมี Idea ตกแต่งบ้านและสวนแปลกๆใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ 
 สามารถเข้ามาดูได้ที่ https://www.facebook.com/IdeasGarden


ไอเดียจัดสวนสำหรับบ้านพื้นที่จำกัดสไตล์ญี่ปุ่น

ในเมืองนาโกย่าประเทศญี่ปุ่นจาก Suppose Design Office กันบ้างนะ ที่ออกแบบบ้านและสวนร่วมสมัยให้อยู่รวมกันอย่างลงตัวแบบไม่ธรรมดาด้วยพื้นที่ภายในที่มีขนาดจำกัดมากๆ และยังได้สร้างให้มีสวนสวยอยู่ใจกลางบ้าน ภายในมีการออกแบบในสไตล์ minimalist ที่ดูสะอาดต















Credit : Homekafe
ยังมี Idea ตกแต่งบ้านและสวนแปลกๆใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ
หรืออยากจะร่วมสนุกแชร์ 
 สามารถเข้ามาดูได้ที่ https://www.facebook.com/IdeasGarden